ส่งของ สิ่งที่คนทั่วไปจะคิดถึงเป็นอันดับแรกๆก็คือ ราคาค่าส่งของ แต่การพิจารณาว่าควรจะใช้บริการขนส่งเจ้าไหนนั้น มีขั้นตอน รายละเอียดดังนี้
ของที่ต้องการส่ง เป็นของประเภทอะไร
ไปรษณีย์ไทยมีบริการส่งของเช่น ทีวี เครื่องซักผ้า ในราคาถูกกว่าผู้ให้บริการขนส่งเอกชนทั้งหมด แต่มีเงื่อนไขของที่ต้องการส่งต้องเข้าเงื่อนไขที่ไปรษณีย์กำหนดเท่านั้น โดยเงื่อนไขรายละเอียดจะมากกว่าขนส่งเอกชนทั่วไปอยู่พอสมควร แต่ในรายละเอียดที่กำหนดไว้นั้น เพื่อ ความปลอดภัยต่อของที่จัดส่งโดยตรง ดูรายละเอียดส่งของไปรษณีย์
แต่ของหลายอย่างไปรษณีย์ก็ไม่มีบริการจัดส่ง หรือ ไม่สามารถส่งได้ เช่นตู้เย็นขนาดใหญ่20Q ของที่มีขนาดยาว ยื่นล้ำออกจากตัวรถ หรือ บริการย้ายบ้าน
ของที่ต้องการส่งขนาดใหญ่เหล่านี้บริษัทเอกชน หรือ ขนส่งเอกชนทั่วไปมีบริการจำนวนมาก
ความรวดเร็วในการส่งของ
ถ้าต้องการความรวดเร็วในการส่งของ ขนส่งเอกชนเอกชนสามารถส่งของขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว โดยมีบริการส่งด่วน ภายใน 24 ชั่วโมงก็สามารถจัดส่งถึงปลายทางได้ แต่การส่งด่วนก็จะมีราคาค่าขนส่งที่สูงมากขึ้น ซึ่งอาจไม่เหมาะกับความต้องการประหยัด
แต่ถ้าไม่ต้องการความรวดเร็วในการส่งให้ถึงปลายทาง อาจจะช้าลงบ้าง ใช้บริการขนส่งเอกชนที่ให้บริการส่งของไปในเส้นทางประจำ การส่งของไปในเส้นทางที่ผู้ให้บริการประจำ จะเป็นการส่งที่ไม่เร่งด่วน ค่าบริการจะถูกลงอย่างมาก ช่วยให้ประหยัดเงินได้จำนวนมาก
จัดระเบียบของที่จะส่ง แพ็คของด้วยตัวเอง
การจัดระเบียบของ เช่น ของที่สามารถวางซ้อนกันได้ในกล่อง หรือ ลงใบเดียวกัน เสื้อผ้า รองเท้า หรือเสื้อผ้าที่สามารถใส่ในตู้เสื้อผ้าพร้อมจัดส่งไปด้วยกัน วิธีการง่ายๆรวบเสื้อผ้าเข้าไว้ด้วยกัน มัดแล้วแขวนส่งไปพร้อมกับตู้เสื้อผ้าที่ต้องการส่ง
บริการขนส่งเอกชนหลายแห่งมีบริการห่อของให้ในปัจจุบัน แต่มีค่าบริการเพิ่มมากขึ้นอีกพอสมควร การห่อของหรือแพ็คของในปัจจุบันไม่ยาก กล่อง วัสดุหุ้มห่อ รวมถึงขั้นตอนการห่อของที่ต้องการส่งให้ปลอดภัยนั้น หาดูศึกษาได้ทางอินเตอร์เนทมากมาย
เปรียบเทียบราคาจากผู้ให้บริการให้มากที่สุด
การเปรียบเทียบราคาเป็นสิ่งที่ต้องทำเมื่อต้องการขนส่งที่ช่วยประหยัดเงินให้มากที่สุด ผู้ให้บริการทั้งแบบเป็นบริษัท หรือ เอกชน มีการแข่งขันกันจำนวนมาก ราคาจึงเป็นตัวกำหนดความแตกต่างเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่การเปรียบเทียบก็ต้องอญุ่ในเงื่อนไขเดียวกันทั้งหมดด้วย
ส่งของแบบไม่ต้องการใบเสร็จ
ถ้าเป็นการส่งของโดยบุคคลทั่วไป เช่น ส่งตู้เย็น ส่งทีวีกลับบ้านต่างจังหวัด ใช้บริการขนส่งเอกชนทั่วไปจะถูกกว่าบริษัทขนาดใหญ่ โดยบริษัทขนาดใหญ่มักจะมีการเรียกเก็บภาษีVATรวมอยู่ในค่าบริการด้วยเสมอ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว การส่งของกลับบ้านไม่สามารถนำvat ไปหักภาษีได้จึงไม่จำเป็นต้องใช้บริการขนาดใหญ่
สรุป:
การส่งของเพื่อให้ประหยัดเงินมากที่สุดนั้นต้องอาศัยการวางแผนที่ดี การเปรียบเทียบราคาของแต่ละบริษัทให้มากที่สุด การเลือกใช้บริการที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้ เพื่อให้การส่งของของคุณคุ้มค่าและประหยัดที่สุดครับ